ให้เกิดความชัดเจน ใน โลกของการเรียน การศึกษา เตรียมตัวเพื่อสอบชิงทุนการศึกษา โลกของการทำงาน ของทุกสาขาวิชาชีพในประเทศไทย และต่างประเทศ เพื่อความสุขของโลกใบนี้....
รายการบล็อกของฉัน
วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
แล้ววันนี้ประเทศไทยก็ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 27 และน่าจะเป็นคนใหม่ที่ดู ‘หล่อ’ ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสายตาแม่ยกหลายๆ คน
คน ไทยส่วนใหญ่รู้จัก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนักการเมืองหน้าตาดี รู้ว่าเขาเป็นนักเรียนนอกจากอังกฤษ รู้ว่าเขายังค่อนข้างหนุ่มแน่นเมื่อเทียบกับตำแหน่งของเขาในตอนนี้ หรือบางคนก็เชื่อว่าเขาเป็น ‘เด็กนายหัวชวน’ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่หลายคนยังไม่รู้ (แต่หลายคนก็รู้) จะว่าไปเขาเป็นนักการเมืองที่มีหนังสือเล่าเรื่องราวของเขาออกมาไม่น้อย น่าจะเรียกได้ว่าเรารู้จักโลกส่วนตัวของเขามากกว่าที่เคยได้รู้จากนักการ เมืองคนอื่นๆ ‘ปริทรรศน์’ รวบรวมเรื่องราวในแง่มุมต่างๆ ให้คนไทยได้รู้จักนายกฯ หน้าตาดีคนนี้ ส่วนเรื่องการบริหารประเทศจะ ‘หล่อ’ เหมือนหน้าตาหรือไม่ โปรดติดตามด้วยใจระทึก 1.Birthday นายกฯ คนใหม่ของเรา เกิดวันที่ 3 สิงหาคม 2507 เมืองนิวคาสเซิ่ล ประเทศอังกฤษ 2.Rock Never Die เห็นนายกฯ ท่าทางสุภาพๆ เนี้ยบๆ แบบนี้ แต่เขาชอบฟังเพลง Rock เป็นชีวิตจิตใจ เขาชอบจังหวะและความหนักแน่นของเนื้อเพลง วงดนตรีที่ชอบคือ R.E.M. และถือว่าเป็นสาวกเพลงร็อคฉบับแฟนพันธุ์แท้ ทุกครั้งที่มีการแสดงคอนเสิร์ตร็อคในประเทศไทย หนุ่มมาร์คจะต้องหาโอกาสไปโยกทุกครั้ง เล่ากันว่าเวลาหนุ่มมาร์คนั่งอยู่ในรถ มักจะหยิบวอล์คแมนขึ้นมาฟังเพลงร็อคพร้อมกับโยกตัวเองไปตามบทเพลงแทบทุก ครั้ง (ถ้าเพลงไทย เขาชอบเพลงเพื่อชีวิต) 3.ใจข้ามีแต่สาริกาดง กีฬาสุดโปรดของนายกฯ ร้อนๆ คนนี้ คือฟุตบอล อาจถึงขั้นฟุตบอลลิซึ่ม และอย่างที่เราๆ รู้ สาริกาดง-นิวคาสเซิ่ล คือทีมที่นั่งอยู่ในหัวใจหนุ่มมาร์ค (ไม่แน่ หนุ่มมาร์คอาจทำให้บอลไทยไปบอลโลกก็ได้ใครจะรู้) 4.ไทย ถึงแม้หนุ่มมาร์คจะเกิดและไปร่ำเรียนที่เมืองนอกเป็นเวลาหลายสิบปี แต่เขาไม่นิยมการพูดไทยคำอังกฤษคำ เรียกได้ว่าเขาเป็นคนที่มีความอนุรักษนิยมในภาษาไทยมากคนหนึ่ง แม้แต่กระทั่งตัวเลขเขายังเขียนเป็นตัวเลขไทยทุกครั้ง 5.นายไข่เจียว อาหารจานโปรดของนายกฯ มาร์ค...ไม่ใช่หูฉลาม แต่เป็นข้าวไข่เจียว 6.แตงโม อาหารที่ไม่ชอบทานคือ 'แตงโม' ไม่รู้ว่าแพ้ทางของภรรยาที่ชื่อ 'แตงโม' หรือเปล่า 7.ต้องโค้กสิ เครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้คือ โค้ก นายกฯ มาร์คดื่มทุกเย็น 8.Family Man ฯพณฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ชื่อว่าเป็นคนที่เกรงใจภรรยาแบบสุดๆ (ใครจะตีความเป็นอย่างอื่นก็สุดแท้แต่) ที่สำคัญรักครอบครัวมาก ทุกเช้าเขาจะต้องนั่งรถไปส่งลูกๆ ที่โรงเรียนเป็นประจำทุกวัน ยกเว้นวันที่มีประชุมตอนเช้าเท่านั้นที่เขาจะไม่ได้ไปส่งเอง 9.นายกฯ หนุ่ม มีคนเข้าใจว่า โอบามาร์คเป็นนายกฯ ที่หนุ่มที่สุดที่ประเทศไทยเคยมี แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ นายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดคือ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ซึ่งขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ ในปี 2488 ด้วยอายุเพียง 40 ปี อีกคนหนึ่งคือจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกฯ ในปี 2481 ตอนอายุ 41 ปี แต่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ ในปี 2551 ตอนอายุ 44 ปี 10.ตัวเล็ก-ปมด้อยที่ทำให้เขาพ้นอันตราย ครั้งหนึ่ง สมัยที่เขาศึกษาระดับชั้นมัธยมที่อีตัน ด้วยเครื่องแบบของโรงเรียนที่เหมือนชุดมายากล และทางโรงเรียนจะกำชับกำชาว่าถ้าจะข้ามไปฝั่งวินเซอร์ ห้ามใส่ชุดมายากล แต่วันนั้นด้วยความเฮี้ยวตามประสาเด็กหนุ่ม เขาข้ามกำแพงไปแถวนั้น ซึ่งคนแถวนั้นเขาไม่ชอบคนเอเชีย ด้วยความซวยปรากฏว่าหนุ่มมาร์คไปเจอพวกเหยียดผิวเข้า แต่ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็กจึงช่วยให้เขาสามารถวิ่งหนีได้รวดเร็ว ก่อนที่จะถูกทำร้าย 11.โรคประจำตัว หนุ่มมาร์คมีโรคเก๊าต์เป็นโรคประจำตัว 12.เด็กเรียน นายกฯ อภิสิทธิ์จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแบรนด์ดังอย่างออกฟอร์ด และเป็นคนไทยคนที่ 3 ที่ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 จากที่นี่ จบปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ก็ที่ออกฟอร์ด นอกจากนี้ เขายังมีใบปริญญาตรีและได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขานิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง 13.ทหารอภิสิทธิ์ หลังจากจบปริญญาตรีจากออกฟอร์ด หนุ่มมาร์คก็ไปเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เขาชะโงก จังหวัดนครนายก อยู่เกือบ 2 ปี จนได้รับพระราชทานยศเป็น ร้อยตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 14.ญาติ งามพรรณ เวชชาชีวะ นักเขียนรางวัลซีไรต์ ปี 2549 จากเรื่อง ‘ความสุขของกะทิ’ คือพี่สาวของนายกฯ มาร์ค สุรนันท์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร คือลูกพี่ลูกน้องของนายกฯ มาร์ค สุรนันท์เป็นลูกของ นิสสัย เวชชาชีวะ อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของ ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ พ่อของนายกฯ มาร์ค 15.บรรพบุรุษ ต้นตระกูลของนายกฯ มาร์คเป็นชาวจีนที่เดินทางจากจีนโพ้นทะเลมาขึ้นฝั่งที่จันทบุรี 16.เวชชาชีวะ นามสกุล ‘เวชชาชีวะ’ เป็นนามสกุลพระราชทานสมัย รัชกาลที่ 6 ลำดับที่ 4,881 จากนามสกุลพระราชทานทั้งหมด 6,423 นามสกุล เหตุที่มีคำว่า ‘เวช’ ก็เพราะมีต้นตระกูลเป็นหมอนั่นเอง 17.ผู้ชายอารมณ์ดี ภายนอกหลายคนอาจมองหนุ่มมาร์คว่าเป็นคนเคร่งขรึม จริงจังกับชีวิต แต่อีกมุมหนึ่งของหนุ่มคนนี้ เขาเป็นคนอารมณ์ดีคนหนึ่ง ชนิดที่ว่าเวลาถูกสัมภาษณ์ เขาจะตอบไป หัวเราะไปเกือบทุกคำถาม มีคนเคยสัมภาษณ์หนุ่มมาร์คว่า อาจารย์เป็นคนชอบอ่านหนังสือ แล้วมีปัญหาเรื่องสายตาหรือไม่ เขาตอบกลับมาทันทีว่าสายตาผมไม่สั้น และก็ไม่ยาวด้วย หรือเมื่อถูกถามว่า ‘แล้วคิดว่าเรื่องอะไรที่คุณคิดว่ามีพรสวรรค์’ เขาตอบว่า ‘เรื่องอะไรบ้างเหรอ...เอาเป็นว่าเรื่องศิลปะนี่ไม่มีเลยแล้วกัน’ ...ว่าแล้วก็หัวเราะ คนถามซักไซ้ต่อว่า ‘อ่อนวาดเขียน?’ เขาตอบว่า ‘พูดว่าอ่อนนี่ยังให้เครดิตมากไป ผมวาดอะไรในโลกนี้ไม่ได้เลยสักอย่าง’ ...หัวเราะอีกตามเคย 18.ยุง สัตว์ที่ไม่ชอบคือ ยุง เพราะถูกกัดนิดเดียวก็จะบวมเป็นอาทิตย์ 19.รับโทรศัพท์ เล่ากันว่าหนุ่มมาร์คเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงเพียงไม่กี่คนที่ รับโทรศัพท์ด้วยตนเองโดยไม่ต้องผ่านเลขาฯ ส่วนตัว (แต่หลังจากนี้...ไม่แน่) 20.พอเพียง หนุ่มมาร์คได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงคนหนึ่ง นาฬิกาข้อมือเรือนหนึ่ง เขาจะใส่นานกว่า 10 ปี เรียกว่าจนกว่าจะพังกันไปข้าง 21.Game เกมที่ชอบเล่น-โซโดคุ (Sodoku) 22.จุดเริ่มต้นทางการเมือง หนุ่มมาร์คลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรกในนามพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2535 ในเขต 6 กรุงเทพมหานคร ตอนนั้นเขาอายุแค่ 27 ปี และก็ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ครั้งแรก กลายเป็น ส.ส. ที่มีอายุน้อยที่สุดในขณะนั้น และยังเป็น ส.ส. กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์เพียงคนเดียวท่ามกลางกระแส ‘จำลองฟีเวอร์’ ในตอนนั้น 23.เพศที่สาม หนุ่มมาร์คเคยให้สัมภาษณ์ที่หนึ่งและตอบคำถามที่ว่า ถ้ามีคนเพศที่สามมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เขาจะรับไหม เขาตอบทันทีทันใดว่า ‘รับ เราคงไม่ปฏิเสธใครด้วยเหตุผลนี้หรอก’ 24.เพลงหากิน เวลาหนุ่มมาร์คถูกเชิญให้ขึ้นร้องเพลงบนเวที เพลงของพงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ และพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ จะเป็นเพลงที่เขาใช้หากินเป็นประจำ 25.กิจวัตรยามเช้า สิ่งแรกที่หนุ่มมาร์คทำตอนตื่นขึ้นมาในยามเช้าคือการชงกาแฟ เปล่า, เขาเป็นคนไม่ทานกาแฟ แต่เขาชงให้ภรรยา... (ภายหลังจากเข้าร่วมพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา นางพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในช่วงสั้นๆ ว่า "รู้สึกดีใจกับนายอภิสิทธิ์ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และรู้สึกภูมิใจ แต่ก็รู้สึกหนักใจแทนเพราะทราบว่าปัญหาประเทศชาติกำลังลำบากอยู่ ซึ่งแม้จะมีเวลาให้ครอบครัวน้อยลง ก็ขอให้นายกรัฐมนตรีทำงานอย่างเต็มที่" ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้คำปรึกษาอะไรกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ภริยานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ปกติก็พูดคุยกันเป็นประจำอยู่แล้ว หากมีอะไรจะคุยก็คุยกันได้เหมือนเดิม แต่คงต้องให้กำลังใจเพิ่มขึ้น" ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ามีเคล็ดลับอะไรในการดูแลนายกรัฐมนตรีคนนี้ นางพิมพ์เพ็ญกล่าวว่า "คงไม่มีเคล็ดลับอะไร นอกจากคอยให้กำลังใจ ส่วนตัวเองก็ยังคงทำงานเหมือนเดิม สอนหนังสือที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตามปกติ" พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยานายกฯ หมาดๆ เปิดใจต่อสื่อมวลชน) ***นางพิมพ์เพ็ญ รู้จักกับนายอภิสิทธิ์ สมัยเป็นเพื่อนนักเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งคู่สมรสกันเมื่อปี พ.ศ. 2531 มีบุตร 2 คน คือ ปราง เวชชาชีวะ (บุตรสาว) กับ ปัณณสิทธิ์ เวชชาชีวะ (บุตรชาย) 26.ของสะสม ซีดีเพลง 27.แหวนหมั้นของยายเนียม ในการแถลงหลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 หนุ่มมาร์คก็เริ่มหาเสียงจากคนอีสานทันทีด้วยเรื่องราวของ ‘แหวนหมั้นของยายเนียม’ เป็นแหวนที่ ยายเนียม พันธุ์มณี วัย 84 ปีเคยให้กับหนุ่มมาร์คไว้เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2550 ขณะที่ไปช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดอุบลราชธานี เขต 1 ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยระหว่างที่นั่งทานข้าวร่วมกันอยู่นั้น ยายเนียมก็ถอดแหวนที่ใส่ติดตัวมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ให้กับหนุ่มมาร์ค “และสำหรับพี่น้องชาวอีสานครับ 16-17 ปี บนถนนการเมือง ผมไปเยี่ยมเยียนท่านหลายครั้ง ได้รับรู้ปัญหา ความทุกข์ ความยากจนของทุกๆ ท่าน และไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ได้ร่วมปั้นข้าวเหนียวข้างเถียงนา ที่สนทนากันที่ไร่มันสำปะหลัง ผมไม่ลืม และที่ผมอดที่จะเอ่ยถึงไม่ได้ คือ คุณยายเนียม ที่ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ที่ครั้งสุดท้ายที่ผมได้ไปรณรงค์หาเสียงนั้น ท่านมอบแหวนวงนี้ให้กับผม และบอกผมว่า ยายหมั้นคุณอภิสิทธิ์ให้กับคนอีสานแล้ว ผมไม่ทราบว่า คุณยายเนียม กำลังดู หรือฟังสิ่งที่ผมพูดอยู่หรือไม่ แต่อยากบอกกับคุณยาย ว่า วันนี้ คนที่รับแหวนจากท่าน จะทำงานให้ท่าน ทำงานให้กับญาติพี่น้องของท่าน ทำงานให้กับชาวอีสานของท่าน และคนไทยร่วมชาติกับท่านอย่างเสมอภาค ด้วยความทุ่มเทและด้วยความซื่อสัตย์สุจริต” ส่วนหนึ่งจากคำแถลงของ นายกฯ อภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2551 ล่าสุด ยายเนียมบอกว่าจะเตรียมสีข้าวกับหาปลาช่อนตัวโตๆ รอเลี้ยงรับขวัญนายกฯ คนใหม่ หากหนุ่มมาร์คกลับไปเยี่ยม manager.co.th 18 Dec.2008
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น