วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การเตรียมตัวไปเรียนในต่างประเทศ ของเด็กนักเรียนไทย






Centara Duangtawan Chiangmai Aug.2009

ดิฉันได้รับคำถามจากนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ในจำนวนนั้นเป็นเด็กนักเรียนไทย ที่เรียนพิเศษอยู่กับ AUA. และ British Council คำถามมีว่าการเลือกเรียนต่อในประเทศไทย ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่เรียกว่าอินเตอร์หรือจะไปเรียนต่างประเทศเลยต่างก็ใช้ผลสอบ IELTS เป็นเกณฑ์ทั้งนั้น และจะทำอย่างไรที่เธอเหล่านั้นจะมีโอกาสเรียน IELTS ได้เพราะบางคนอายุ16เรียนอยู่ในระดับPre-intermediate เท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ielts ก็เป็นแบบทดสอบที่วัดมาตรฐานของภาษาอังกฤษ ที่เธอเหล่านั้นรู้จัก และสิ่งแวดล้อมและสื่อต่างๆทำให้การมีวิสัยทัศน์ที่จะรู้ว่าโอกาสที่จะได้เรียนต่อในต่างประเทศ ที่ใช้คะแนนband scores ทั้งการ ฟังพูดอ่าน เขียนชิงทุนการศึกษาซึ่งมีตัวเลือกที่มหาวิทยาลัย ในต่างประเทศเสนอให้นักเรียนต่างชาติ ที่ดูจากผลการเรียนและคะเเนนสอบIELTS
ซึ่งถือว่าต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้

แต่จะทำอย่างไรเล่าเมื่อข้อมูลเรื่องการเรียนการสอบ คนตอบคำถามที่เป็นอาจารย์หรือพ่อแม่ผู้ปกครองก็ยังไม่สามารถตอบคำถามได้ ทั้งๆที่พ่อแม่ก็เริ่มมองมหาวิทยาลัยที่สอนภาษาอังกฤษเช่นธรรมศาสตร์อินเตอร์ไว้ให้ลูกเช่นกัน หลังจากที่หลายครอบครัวส่งลูกไปเรียนภาษาในต่างประเทศตอนปิดเทอมหรือ ไปเรียนม.ปลายในออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์

มาแล้ว และครอบครัวก็ยังไม่สามารถประเิมินค่าใช้จ่าย ออกมาได้ว่าการไปเรียนในต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษไปเลย

หรือเรียนมหาวิทยาลัยอินเตอร์ในประเทศที่มาตรฐาน อะไรจะคุ้มค่าหรือประหยัดกว่ากัน คำตอบก็คงจะมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับตัวเด็กๆเอง ซึ่งเป็นแบบฉบับของความรักของพ่อแม่ทั่วโลกที่ได้ทำวีรกรรมให้กับลูกซึ่งถือว่าเป็นปกติ

วิกฤติเศรษฐกิจ ผ่านมานับสิบปีทำให้บัณฑิตที่จบปริญญาตรีตกงานอย่างทั่วถึง โครงการ Work and Travel ที่จะเห็นได้ว่า ตลาดแรงงานในบ้านเราล้มเหลว ระบบการศึกษาติดขัด แต่โครงการเรียนและทำงานอย่างสั้นๆก็เป็นเพียง ปราสาททราย เป็นเพียงการเดินทางสั้นๆและไม่รู้ว่าจะได้อะไรเช่นที่กล่าวอ้างกันหรือไม่ เรื่อง Visa หรือPermitทำงาน นักศึกษาบางคนไปอเมริกามา2-3 รอบแล้ว มีประสบการณ์สวนสนุกก็ถือว่าเปิดมิติใหม่ที่จะทำงานเป็น

และก็มีผลต่อรุ่นน้องๆในชั้นมัธยม ถ้าเรียนไปไม่เก่งจริงโอกาส ตกงานมีแน่นอน และภาษาอังกฤษก็เป็นวิชาหนึ่งที่ต้องเอาจริง พ่อแม่ในเอเชียจะลงทุนที่สุดคือค่าเรียนของลูกทั้งเรียนพิเศษ เรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเีสียง เท่าที่จะจัดหาให้ได้

ส่วนลูกก็จะตอบแทนด้วยการตั้งใจเรียน และประพฤติปฏิบัิติตัวดีงาม และทำตนเป็นเด็กดี ตอบแทนโอกาสที่พ่อแม่ให้

การเตรียมตัวไปเรียนในต่างประเทศ ของเด็กนักเรียนไทย คำถามที่ดิฉันพบคือนักเรียนไทยเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล นานเหลือเกิน เมื่อมีโอกาสได้รับรู้เรื่องการเรียน เรื่อง แบบทดสอบ ที่สามารถแสดงมาตรฐานของทักษะในภาษาอังกฤษ ที่ไม่เพียงแต่มหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ ต้องการ ทุนการศึกษาจากทั่วโลก ก็เป็นแรงจูงใจอีก แต่ข้อมูลที่ได้มา นักเรียนจะต้องมีผล IELTS เช่นเดียวกับแพทย์พยาบาลที่จะเรียนต่อ หรือพี่ๆที่จบปริญญาตรีที่ต้องหาที่เรียนในต่างประเทศและไปสอบกันและใช้เวลาเป็นปี กว่าจะได้คะแนนที่กำหนด บางคนล้มเลิกความอดทนไปเลย



วิธีการของ Cambridge ที่เราสามารถใช้ Practice tests for IELTS ( The International English Language Testing System ) มีหนังสือที่เป็น SELF StudyEdition ถึง7 เล่ม และยังไม่รวมถึงหนังสือขยายความและวิธีการของทุกทักษะที่เป็น update edition อีกมากมาย ที่ใช้มาตรฐานร่วมกัน และไม่สามารถเรียนรู้ได้ระดับดีมากในเวลาสั้นๆ

การสอบมีข้อจำกัดด้วยเงื่อนเวลา , Tricks , และ Traps มากมาย ตลอดจนการฟังและการอ่านจะดีสำหรับผู้เตรียมตัวดีเท่านั้น ความรู้ทางวิชาการที่มาจากงานวิจัย ที่คนสอบต้องมีประสบการณ์ และนำมาตอบ Skills ,not a gift
โครงการเล็กๆที่ดิฉันจะเสนอในเวลานี้ เกิดจากคำถามของเด็กๆ ว่าอายุเท่าไรน่าจะเรียน IELTS ที่สุด เพราะมาตรฐานและ
เป็นวิธีการเตรียมการ สำหรับนักเรียนม.ปลาย ที่สนใจจะเตรียมผล ielts ไปใช้เรียนต่อปริญญาตรีใน
ต่างประเทศ
การสอบIELTS ผู้สอบต้องอายุครบ16 ปี

และข้อเสนอพิเศษตอนนี้ ถ้ามีนักเรียนที่เป็นกลุ่มเดียวกันพื้นฐานภาษาอังกฤษดีกลุ่มละ3-5 อายุ15 ปีขึ้นไป อยากเรียน Pre-ielts ในราคานักเรียน และมีเป้าหมายสอบวัดผลเมื่อมีโอกาสและความพร้อม

ยินดีให้คำปรึกษา สำหรับผู้ปกครองและผู้สนใจ

อย่าลืมนะคะ IELTS จะดีสำหรับผู้เตรียมตัวดีเท่านั้นค่ะ

A. Jane

olacm@yahoo.com


053216222

086-4313850

Oblivion Duo Guitar