สวัสดีค่ะ
วันนี้ถึงเวลาและเป็นโอกาสดีที่จะตอบคำถาม ให้ ผู้ที่จะเรียนต่อในต่างประเทศ ที่เป็นข้าราชการและ เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย ที่จะไปเรียนต่อในระดับปริญญาเอกที่กำลังมีไฟอยู่ หลายคนตอบคำถามให้กับตัวเองไม่ได้ ว่าอนาคตจะเดินทางไปตรงไหน ในขณะที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งทั้งในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปิดโอกาสให้ไปเรียนภาษา ก่อนจะเข้าเรียนจริง ดูจะเป็นเรื่องง่ายกว่าพยาบาลไทยอยากไปเมืองนอก ขั้นตอนจะยากกว่า ต้องเตรียมตัวเรียน ถ้าจะเปรียบกันแล้ว พยาบาลไทยเอาจริงเอาจังมากกว่า ลงทุนเรียน และมีการเดินทางไปสอบประกาศนียบัติวิชาชีพ เช่น NCLEX ,หรือ CGFNS ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ และพยายามทำ ฺBand scores ของ IELTS และหลายคนมีประสบการณ์สอบกว่าจะได้ over all ที่ 6 สอบมาแล้ว 6 ครั้ง ....
ประสบการณ์ที่เป็นผู้สอน พบว่าอาจารย์และข้าราชการ ที่จะไปเรียนต่อ จะมีปัญหา เรื่องการเขียน ( Academic writings ทั้งTask 1 และ2) นอกจากโครงสร้างในการเขียน และการเขียน ของ Academic writing จะแตกต่าง กับการเขียน โดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง และคนที่จะไปทำปริญญาเอก จะต้อง เขียนงาน ที่ เป็น Thesis แน่นอนจะต้องเขียนไม่ต่ำกว่า 150,000 คำ
กลุ่มอาจารย์ ข้าราชการสอบ ครั้ง2 ครั้ง ก็ยอมแพ้แล้ว ความอึดสู้พยาบาลไม่ได้ ค่ะ
ฉะนั้นก่อนสอบก็ต้องเตรียมอ่านบทวิจัยอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมเขียนเสนองาน สอบสัมภาษณ์ และ มีวิธีคิดที่เป็นระบบ เช่นเดียวกัน หลายคนมีความคิดแตกต่าง แต่ไม่เป็นระบบ เหมือนกับเรา สอนหนังสือและให้คะแนนลูกศิษย์ เราคงไม่สามารถให้คะแนนผู้ที่มีความสามารถในการคิด แต่ไม่มีผลิตผลออกมาเป็นรูปธรรม ก็จะเป็นอะไรที่ยากเมื่อโครงสร้าง ที่หละหลวม และเป็นเรื่องวิมานในอากาศ จะสามารถช่วยพัฒนาชีวิตได้่ยั่งยืนได้อย่างไร???? ก็็ต้องให้คนต่อรองกับมหาวิทยาลัยให้ เช่น AGENCY ต่างๆ( ดิฉันเองก็เป็น Agency
ด้วยค่ะ!!!! ไม่แปลกอะไร+++ )
ไม่ว่าอาจารย์ทั้งหลายจะตอบตนเองว่าไม่มีปัญหา มีคนขียน recommended ดีๆก็ใช้ได้แล้ว(ตรงนี้ผู้ตอบจะภูมิใจมาก
แต่ไม่มองหน้าผู้ฟัง) ก็น่าจะไปได้แล้ว และหลายคนก็งานยุ่งกันเหลือเกิน และ ขอไป...เอาดาบหน้า และคิดได้แค่ว่าจะหาเงินไหนไปเรียนภาษา ที่ต้องจ่ายเอง อย่างน้อย3แสน กินอยู่อีก ค่าเช่าค่าเดินทาง...และคำถามต่อมาอีก เมื่อไปเรียนแล้วเวลาหมด และเงินก็หมด อีก แล้วจะหาที่ไหนมาเรียนให้จบ ล่ะ ทุกคนรู้ตัวดีว่าภาษาอังกฤษของตัวเองไปไม่ถึงไหน???
และน่าเสียดาย ระบบการศึกษาในมหาวิทยาลัยบ้านเรา ภาษาอังกฤษที่ ไปหยุดอยู่ตรงแค่ สอบ Entrance เข้ามหาวิทยาลัย และได้เรียน แค่ปี2 และปริญญาโท ที่เรียน ก็เป็นปริญญาโท ในเมืองไทยเสียอีก
โชคดีว่าการพูดของการเป็นอาจารย์อาจจะได้เปรียบ กว่า มีเวลาดูหนังฟังเพลงมากกว่าพยาบาล มีนักวิชาการแลกเปลี่ยน มาช่วยกระตุ้น เสมอๆ แต่ตัวเลขของการสอบพยาบาลที่สอบ IELTS จะมีสถิติมากกว่า และอึดกว่าเสมอ ในการอดทนอ่าน อดทนหัดเขียน
และไปสอบหลายครั้ง เมื่อคะเเนนไม่เป็นที่น่าพอใจจึง หาที่เรียน และไม่ค่อยมีเวลาจะเรียน และPart speaking ก็จะทำคะแนนได้ยากสุด เพราะ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ถามอะำไร ก็ตอบไปเห็น Examiner คนเดิมก็รู้คะแนนตัวเองแล้ว .และ คิดได้แค่นี้
ดิฉันใช้เวลาเรียน IELTS 1ปีเต็มๆ ทั้งที่ดิฉันเรียนจบปริญญาโทมาแล้ว เพราะความอยากรู้ว่า IELTS คืออะไร และดิฉันพบว่า 15 ปีมาแล้ว ขณะนั้น ยังไม่มีหนังสือเีรียน ด้วยซ้ำ เป็นSheets วันละแผ่น2 แผ่น และได้ผู้สอนคนแรก ของเทอมแรกเป็น ชาวอังกฤษ และ
เหลือเชื่อจริงๆ ดิฉันได้วิธีการ และการเรียน ที่เป็น การประเมินผลที่เคยเปลี่ยน ด้วยข้อจำกัดของเวลา กับดักและกลลวง ที่เป็น เรื่องของการฟัง การอ่านและการเขียน และเรียนเรื่องที่ไม่ค่อยคุ้นเคย ศัพท์ที่ไม่เคยได้ยินเช่นคำว่า hoisting ที่น่าจะเป็น สำนวนชาวอังกฤษ ที่แปลว่าstealing , Shop lifting หรือ To raise up ดึงขึ้น เรียนเรื่องอาชญากรรม ชนิดต่างๆ ทั้งที่ผู้เรียน ส่วนหนึ่งจะเป็นเด็กจากยุโรป เยอรมัน หรือโปแลนด์ ที่มาอยู่ในประเทศไทย ที่อายุไม่เกิน18 ปี และอีกส่วนเป็นนักศึกษาไทย ที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ ในสาขา แพทย์ พยาบาลและเทคนิคการแพทย์ อาจารย์ทางเทคโนโลยี่การเกษตร วิศวกร ได้รับทุนกันแล้ว และได้ทุนเรียน ภาษาด้วย ดิฉันเรียน เรื่องของอาชญากรรม ใน อังกฤษและ เวลส์ (England & Wales ) รูปแบบต่างๆ ตลอดจนการละเมิดรูปแบบต่างๆ ที่อยู่ในสถิติของตำรวจ ทั้ง ที่เรื่องร้ายแรงเช่นการปล้น ฆ่า และอุปกรณ์ที่ใช้ และเราต้องdiscussion กันกับผู้เรียนในชั้น ไม่มีใครที่เป็นนักกฎหมายหรือตำรวจมาเรียนและผู้เรียนอายุเฉลี่ยประมาณ ไม่เกิน 25 ปี รู้จักคำว่า offence ว่า เป็นการกระทำให้ผู้อื่่นเดือดร้อน ยังไม่รู้จักคำว่าละเมิดเลย เพราะครูที่สอนเราเป็นชาวอังกฤษ
และการฟัง ก็จะเป็นเรื่อง ต่างๆ และจะต้องนำมาเติมในช่องว่าง เป็นเรื่องของหาย Bad start to a Honeymoon ต้องเลือกว่ามีอะไร
หายไปบ้าง
ท้ายสุดต้องฟัง เพื่อ Complete the graph ที่เป็นเรื่องของ Rate of Inflation by 6 years คือต้อง ฟังและ plot กราฟได้
เป็นเรื่องของ เศรษฐศาสตร์ ที่ต้องฟังรู้เรื่อง โชคดีว่าดิฉัน เรียนจบปริญญาโทมาแล้ว และเทรนมาจาก ตลากหลักทรัพย์ การดูหุ้นตอนนั้นก็ใช้คอมพิวเตอร์มีการนำสถิติมา predicted SET INDEX ของไทยแล้ว
แต่ ปัญหามันกลับกลายเป็นGrammar Problem คือPreposition ต้องเรียนรู้จริงๆว่าจะใช้หรือไม่อย่างไร....
ความรู้หลากหลายเหล่านั้น กลายเป็น การอธิบายสถิติ ที่เราจะต้องเขียนและอธิบายให้ได้ เป็นรูปเเบบ ของ writing Task 1 เป็นกราฟ หน้าตาต่างๆที่เป็นสถิติ
ที่จำได้ดี คือ Percentage of Murders by various types of people ที่เกิดโดยเพื่อนสนิท คู่รัก คนในครอบครัว หรือคนแปลกหน้า
ที่ให้มาเป็น pie chart ที่เราเรียกว่า กราฟวงกลม
และการบ้านที่น่าประทับใจ Make notes for an essay with the title :
"
With crime as with disease, prevention is always better than punishment "
Discuss this statement and the different methods of prevention and punishment for crime in your country.
และเป็นความยากที่มีความสนุกอยู่ในความเจ็บปวดลึก ที่มันยากเหลือเกิน ไม่ว่าคุณจะใช้ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่1 หรือ2
แต่อย่างน้อยดิฉันก็ได้รู้ว่า Academic English ที่เรียกว่า IELTS คืออะไร ทำไมคนเรียนอายุ16 กับคนเรียน ที่จะไปทำปริญญาเอก
มีข้อสอบ หรือคำถามเหมือนกัน แต่ เราต้องกลับ มาดูกันว่า ระัดับที่เรียกว่า ทักษะ นั้นต้องทำอะไร การพัฒนาทักษะ ทั้ง4 อย่างของเรา ไปถึงไหนแล้ว
ในการสอบ
COMPREHENSIVE ของมหาวิทยาลัยทุกแห่ง ในโลก ตั้งแต่ ระดับปริญญาโท ขึ้นไป ที่เป็นขั้นตอนสุดท้าย ที่จะจบและรับปริญญา แปลเป็นภาษาไทยว่า ข้อสอบ
ภาคพิสดาร ตรงนี้สำคัญมากค่ะ เมื่อสอบปากเปล่า ในตอนที่3 ของIELTS PART speaking คำถามที่ให้มา จะถามความเห็น
และถามง่ายๆ แต่เราจะต้องตอบเป็น Academic Speaking ไม่ใช่การตอบปกติ เลิกใช้ I, YOU , We โดยสิ้นเชิง และวิธีการของ ภาคพิสดาร จะทำให้ Band Scores ใน PART speaking อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ยิ่งมี ที่มาและที่ไป เป็นเหตุเป็นผล กัน(Cause and Effect) การยกตัวอย่าง ที่มาจากทฤษฎีมิใช่การกล่าวอ้างลอยๆ : ซึ่งเป็นวิธีการจากการเขียน ที่นำมาตอบและฝึกจนลื่นไหล ฟังรู้เรื่อง
เเละเป็นการเตรียมที่ถูกต้อง และตอบคำถามครบ ในเวลาอันจำกัด
คงเป็นคำตอบให้กับ ผู้ที่ยังไม่ได้ เตรียมตัว ตำราในสมัยนั้น ที่ดิฉัน ได้ใช้ เทอมสุดท้ายมาทราบทีหลังว่า (15 ปีต่อมา)
ว่า เป็น First Certificate ของ SUE O'CONNELL ที่ยังใช้อยู่ ในที่สอน IELTS ทั้งออสเตรเลียและอังกฤษ ( ขนาดFirst Certificate นะเนี่ย) First Certificate ที่ดิฉันต้องจดจำ ++++ และไม่เชื่อว่า มีคนสอบได้ิ band scoresมากกว่า 6 โดยไม่เคยรู้จักวิธีการทำสอบมาก่อนเลย
-ขณะนี้ ตำราIELTS จากหลายๆประเทศ ไม่ว่าจะเป็นของ แคนาดา อังกฤษ ออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ หรือของอเมริกา มีวิธีการ และการเรียนรู้ไม่ได้ต่างกันมากนัก เพราะเป็นแบบทดสอบที่เป็นมาตรวัดความเข้าใจของผู้ที่จะไปเรียนหรือทำงานในต่างประเทศ ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก ที่ต้องพร้อมที่จะรับผิดชอบกับทักษะทางการทำงาน การเรียน ของตนให้ถึงที่สุดด้วยความสามารถจริงยัง ใช้หลักการเดิมในการสอบ แต่ อาจจะ๊UPDATE ข้อมูล ให้ เหมาะสม กับกาลเวลา
คำถามอีกอันที่ถูกถามบ่อยว่า การไปเรียน IELTS ในต่างประเทศ จะใช้เวลา และค่าเรียนเท่าไร และจะสอบได้7 ไหม ???
คำถามนี้น่าจะถามตัวเองก่อนนะคะว่า กริยา3 ช่อง ผันได้หมดไหม , Basic grammar เช่น Tenses หรือ articles , นามนับได้ นับไม่ได้ เป็นอย่างไร อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังเพลง ฟังข่าว พูดกับชาวต่างชาติ ได้มากกว่า 70 % และ ถามตอบเป็นภาษาอังกฤษ ได้ ดีเมื่อรับโทรศัพท์ไหม ??? สอบ IELTS ในเมืองไทยมาแล้วกี่ครั้ง และทราบไหมว่า มีคนสอบ ที่ไปเรียนกฎหมายในประเทศอังกฤษ เขาสอบได้เริ่ม7จาก ฺband scores 5.5 ใช้เวลา ปีเศษ และสอบ 10 ครั้ง 2 ครั้งหลัง ไปสอบได้ที่ประเทศอังกฤษ Over all ครั้งได้ที่ 7 ทั้ง 2 ครั้ง
และเวลายาวนานเท่าไร ถ้าไปเรียนต่างประเทศ
มีเรียนค่ะตั้งแต่ 5 สัปดาห์ขึ้นไป จนถึง 10 สัปดาห์ หรือมากกว่า อย่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ หรือ แคนาดา ของ Kaplan International ค่าเรียน สัปดา์ห์ละหมื่นเศษยังไม่รวมค่าเดินทางและที่พัก สนใจไปจริงๆก็ติดต่อ ดิฉันมาได้เลย ค่ะ และ ถ้าเป็นพยาบาลวีซ่าเรียนต่อก็จะยากมาก เพราะสถานทูตก็รู้เท่าทัน ค่ะ
ค่าเรียนอาจไม่มีปํญหา แต่ถามตัวเองก่อน ว่า ปัญหา จะเกิด เพราะไม่มีการเตรียมตัว หรือผ่านสนามสอบมาเลย แต่ทางออกก็ยังมีอยู่นะคะ ค่าย Immersion Camp ที่เชียงใหม่ ยินดีจะจัดหลักสูตร IELTS กับผู้ที่ เตรียมตัว ไปเรียน ปริญญาโทและปริญญาเอก แต่ยังไม่มีผลband Scores ของ IELTS เลย
ถ้าคุณมีปริญญาตรีแล้ว รับประกันขั้นต่ำที่ 5.5 และสูงกว่า++++ ในครั้งแรกที่สอบค่ายของคุณจะมี2 แบบ คือ Weekend และ Weeklong
จากทีมงาน ที่มีประสบการณ์ และเข้าใจในความสามารถ ของคุณ ที่จะกลับมาสร้างประโยชน์ ให้สังคมไทย
HAPPY Chinese NewYear & Happy Valentine's day มายังทุกท่านค่ะ
AJane
053-216222
086-4313850
olacm@yahoo.com
