วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

การเตรียมตัวหลังจากเรียนจบปริญญาตรีของนักศึกษาไทย






ดิฉันในนามของอาจารย์ที่ให้คำปรึกษา หลาย ปีที่ผ่านมาดิฉันพบว่า นักเรียน นักศึกษาที่เรียนปริญญาตรีอยู่ ติดต่อไปเรียนและทำงานไปด้วยในต่างประเทศ ประเทศที่นักศึกษาอยากไปมากมี่สุดคือประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และประเทศอังกฤษ คำถามคือทำไมเลือกประเทศเหล่านี้ คำตอบคือ เขาสามารถเรียนด้วยทำงานไ
ปด้วยเพราะ ทุนที่ได้ไปเป็นเงินของครอบครัว ที่เป็นความจริง

ประเทศไทยได้รับวิกฤติทางเศรษฐกิจ เลยมาร่วมเกือบ15 ปีแล้
ว เราพบว่าจนบัดนี้ยังไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่พ่อแม่ที่การศึกษาเป็นเรื่องของการลงทุน

เมื่อเรียนไปก็ตกงาน คนในวงการศึกษาไทย เก่งมาก มีการจัด โครงการ หลายอย่าง เริ่มจาก โครงการของ Au pair ที่เริ่มจากความต้องการของ

คนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ต้องการพี่เลี้ยงเด็กจากต่างประเทศมาช่วย
เลี้ยงดูลูกๆ จึงยอมเป็น Sponsor จ่ายค่าเดินทางให้ มีเงินค่าจ้าง และหาที่เรียนให้ผู้มาทำงานด้วย ในเมืองไทย มีโครงการนี้มาเป็นปีที่10 หรือมีมานานกว่านี้ แล้ว ประสบการที่ดิฉันได้ทำการฝึกงานให้ นักเรียนไทย ที่ประสงค์จะไปทำงาน ดิฉันพบว่า มีนักศึกษาที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นปีที่1 หรือชั้นปีที่2 ทีมีผลการเรียนดีมาก ลาออกหรือดรอปเรียน เพราะ มีโอกาส เตรียมตัว เพราะ ทุกคนทราบว่าจะสามารถทำงานพร้อมกับได้เรียนหนังสือแน่นอน ขณะนั้นดิฉันเป็นผู้บริหาร
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติอยู่ ในจังหวัดเชียงใหม่นี่แหละค่ะ ผู้ที่จะร่วมโครงการจะต้องผ่านการฝึกงาน อย่างน้อย200ชั่วโมง จาก โรงเรียน


และปีนั้นดิฉันก็พบกับน้องเฟย์ ที่เรียนเมเจอร์ภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เนื่องจากการเป็นคนเรียนดี มีโลกทัศน์และเป็นตัวของตัวเอง เธอมีคุณแม่มาส่งขอฝึกงานตั้งแต่เช้าถึงเย็นเริ่มจากรับนักเรียนจากผู้ปกครอง ร้องเพลง ออกกำลังกาย ร่วมทำกิจกรรมทุกอย่างในโรงเรียนสอน และกิจกรรมเด็ก และโรงเรียนของดิฉันจะใช้ภาษาอังกฤษ และนักเรียน ระดับอายุ3-5 ขวบเท่านั้น

ดิฉันจะถาม เพราะรู้ว่างาน ดูแลเด็กไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และน้องเฟย์ก็
เรียนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่แล้ว พอ รู้จักเธอมากขึ้น ดิฉันพบว่า เธอเป็น

นักเรียนไทยที่เรียกได้เลยว่า Out Standingจริงๆ เธอชอบวิชาภาษาอังกฤษ และเรียนได้ดีทุกวิชา และอยากมีประสบการณ์ ครอบครัวที่อยากให้เธอไปทำงานด้วย มีลูก3 คน อายุประมาณ 5 7 11 ปี ก่อนจะเดินทางคุณแม่ของเธอก็ต้องเตรียมเงิน เตรียม หนังสือรับรองรายได้ อเมริกา เป็นประเทศที่ไม่ยอมให้เด็กนักศึกษาต่างชาติได้ทำงาน นอกจากแอบไปทำ ก็มีโครงการนี้ ที่เปิดโอกาส ให้ได้ทำงาน ถ้ามีคนทราบเรื่องการเลี้ยงดูลูกๆของแม่คนไทยแล้วจะพบว่าคุณแม่แบบไทย เลี้ยงลูกๆโดยให้ การเรียนและกิจกรรมเป็นหลัก

เด็กนักเรียนไทยเรียน เรียนพิเศษ และ มีกิจกรรม เสาร์อาทิตย์ ไม่เคยหยุด ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี ไทย หรือ กิจกรรม กีฬาและครอบครัวไทย
ถือว่ามาตรฐานชีวิตของเด็กไทยที่จะ อยู่ได้นั้น คือการมีประสบการณ์ ควบคู่กับปริญญาที่เรียนได้ด้วยความสามารถ ตนเอง ดิฉันได้ข่าวจากคุณแม่

ของน้องเฟย์ว่านอกจากจะสอนการบ้านน้องๆ ได้เริ่มสอนเปียโน น้องๆเพราะเธอเรียนมาแต่เด็กๆ มี Certificate น้องได้เรียนต่อปริญญาตรีแล้ว และ พ่อแม่ ของเด็กๆ ให้รถสปอต ใช้1 คัน เพื่อจะได้พาน้องๆไปเที่ยว เมืองที่น้องไปอยู่คือ มหานคร NEWYORK
หลังจากนั้น ก็มีเพื่อนๆ ของเธออีกจำนวนหนึ่ง ที่มาขอฝึกงานก่อนเดินทาง ใน โครงการ AU PAIR
ดิฉันมีความรู้สีกว่าประเทศสหรัฐอเมริกา ช่างโชคดี เสียนี่กระไร เพราะน้องๆที่จะไปทำงานดูแลเด็กๆ ภาษาอังกฤษต้อง ผ่านมาตรฐาน ทำงานหนักได้สุดๆ ตอบคำถามน้องได้ สนุกสนาน แก้ปํญหาได้ดี ทำอาหาร ล้างจาน เก็บของเข้าที่ได้อย่าง เลขานุการ มืออาชีพ เป็นที่ปรึกษาของน้องๆได้ โดย ใช้สติปัญญา จึงจะเกิดการพัฒนาคนไปทางที่ดี และพ่อแม่ต้อง มีตัวเลข ในบัญชีหลายๆหลัก ประกัน

แต่เราจะพบว่าหนุ่มสาวชาวไทย ยอมไปทำงานหนักและเหนื่อย ทั้งที่เป็นคุณหนูที่บ้าน โดยตลอด เพียงเพ่อความรู้สึกอยากพัฒนาตนเอง
เท่านั้น ด้วยความรัก พ่อแม่ ก็ต้อง ให้โอกาส และหลายคนทำได้ดี ในรุ่นหนุ่มสาว ยังมีไฟ และแน่นอน วันหนึ่ง เขาต้องกลับมา เมืองไทยอันแสนรัก แน่นอน


5 ปีหลังจาก ประสบการณ์ที่ดิฉัน ทำงานกับ บัณฑิตที่ได้รับทุน เรียนจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น วิศวกร หรือพยาบาลไทย เภสัชกร ... ที่เดินทางแลกเปลียน ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป การเตรียมตัว เป็นเรื่องสำคัญมาก

ทุกคนรู้ว่านอกจากผลการเรียนแล้ว การเรียน เพื่อ จะต้องสอบ วัดมาตรฐานการศึกษา อย่าง TOEFL IELTS หรือผลสอบ อื่นๆที่ใช้วัดมาตรฐานทางความรู้ ของสถาบันต่างๆ และ วิชาชีพต่างๆ เป็นแบบทดสอบความรู้ความสามารถ ของผู้ที่ต้องการสอบชิงทุนในสาขาต่างๆ ก็จะมีชื่อเรียกต่างกันไป และที่เห็นโดยทั่วๆไป นักเรียนไทยจำนวนหนึ่งเริ่ม สนใจโครงการเรียนและฝึกงานในต่างประเทศ ใน ชื่อโครงการต่างๆ เป็นการทำงานระยะ
สั้นๆ พร้อมกับเรียน ในโรงเรียนภาษา เพื่อคะแนนสอบ

วิชาภาษอังกฤษ ที่สามารถได้รายได้ดีขึ้น เมื่อสื่อสารได้ดี ประเทศไทยต้องยอมรับว่า จากที่คนในชาติเรียนภาษษอังกฤษ มาตั้งแต่ประถมปีที่1

เรียนไปจนถึง ระดับมหาวิทยาลัย แต่เรายังพูดไม่ได้ อ่านไม่เก่ง ก็เพราะสิ่งแวดล้อม
ที่ผ่านมายังไม่อำนวย บัณฑิต ที่จบออกมาจากมหาวิทยาลัย

แอบมาขอเรียน ภาษาอังกฤษ กับดิฉัน และมีบางคน ได้ทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท จาก บริษัทต่างชาติในนิคมอุตสาหกรรม มาขอเรียน GRAMMAR ของชั้นมัธยมตอนต้น เพียงขอเปลี่ยน concept ไม่รู้ว่ามาจากไหน ไม่รู้จะถามใคร ดิฉันมีประสบการณ์ที่ทำงานกับผู้มาขอเรียนใหม่ และ ส่วนใหญ่ เป็นวิศวกร ที่มาจาก มหาวิทยาลัย ของรัฐ และได้งานทำดีมาก และดิฉัน เข้าใจ

วิธีเรียน เพราะ ตัวของดิฉันเคยถาม วิศวกร ที่มาเรียนด้วยว่าดิฉันเคยสงสัยเช่นกัน ว่าวิชาตรีโกณมิติ ที่ดิฉันเรียนมอ ปลาย สมัยก่อน น่ะ เอาไปทำอะไร วิศวกร หลายคนอึ้ง ตอบไม่ชัดเจน ใช้ในการคำนวนอะไร ดิฉันก็ไม่ทราบว่า เอามาแทนค่า แล้วเอาไปทำไม มีวิศวโยธาคนหนึ่ง

ตอบว่า ใช้คำนวน สร้างถนน คงจะมีได้บ้าง ดิฉันตอบทุกค
นไปว่านี่แหละคือปัญหาของบ้านเมือง ไทย คือเรารู้ แต่ไม่แน่ใจ คลุมเครือ


คุณกำลังบอกดิฉันใช่ไหมว่า He plays football play มี s แปลว่า เล่น เยอะ คุณ ไม่เข้าใจ ว่า Play เป็นคำกริยา

แต่เมื่อ คุณ มองออกแล้ว คุณจะ Happy หลังจาก โง่ มานาน คุณคงไม่ว่าอะไร มีบางอย่าง ที่ดิฉันและหลายคน ยัง โง่อยู่ เพราะไม่รู้ที่มาและที่ไป

และการคำนวณความสูงของปิรามิด เขาใช้ทฤษฎีอะไร ดิฉันก็ยังโง่อยู่จริงๆ



การเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาและเทคโนโลยี โลกใกล้ชิดกันมากขึ้น ใน5 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงมาก และเราต้องตามให้ทัน
ดิฉันอยากให้ คนไทย ถามและ คนไทยช่วยกันตอบ จานีน ยโสวันต์ BSc. MPA. Counselor

20 July 2008

ไม่มีความคิดเห็น:

Oblivion Duo Guitar