วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

"Engineering Career day "Chiangmai University 26 August 2009



The School of Technology and Management


STM (The School of Technology and Management) เป็นส่วนหนึ่งของ University of East London ซึ่งหลักสูตรเต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ ด้วยราคาที่คุ้มค่า โดย ทีมอาจารย์ ที่มากด้วยประสบการสอน เต็มเปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ ช่วยให้นักศึกษาประสบความสำเร็จในอนาคต

STM เป็นสถาบันการศึกษาด้านเทคโนโลยีอย่างแท้จริง รวมทั้งเป็นผู้นำการสอนทางด้าน Business, Management และ IT ซึ่งหลักสูตรทั้งหมดเป็นหลักสูตรของ University of East London




London School of Commerce


LSC (London School of Commerce) เป็นส่วนหนึ่งของ University of Wales Institute, Cardiff (UWIC) ตั้งอยู่Zone 1ในใจกลางลอนดอน ช่วยเปิดโอกาสให้นักเรียนทั่วโลกได้เรียนในหลักสูตร ปริญญาตรี และ ปริญญาโท ด้วยหลักสูตรที่มีคุณภาพ และยืดหยุ่นของ University of Wales Instituteในลอนดอน ด้วยราคาที่คุ้มค่า ช่วยให้ประสบความสำเร็จในอาชีพอย่างแท้จริง นอกจากนี้ LSC ยังตั้งอยู่ในใจกลางลอนดอน ซึ่งทำให้การเดินทาง สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

LSC เข้าใจถึงความต้องการของ นักเรียนต่างชาติอย่างแท้จริงจึงได้จัดวาง หลักสูตรที่ยืดหยุ่น ด้วยราคาที่เหมาะสม รวมทั้งคุณภาพของเนื้อหาที่เข้มข้น นั่นช่วยให้นักศึกษาเมื่อจบออกไปประสบความสำเร็จในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง

วิศวกรที่สนใจเรียน MBA. ที่อังกฤษ ติดต่อมาได้เลย



LSC. London , STM London ได้เข้าร่วมงาน Engineering Career day ..26 สิงหาคม2552 ที่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่





สนใจจะเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ กับมหาวิทยาลัย TOP Ranking ในราคาที่ประหยัด คุณภาพสมบูรณ์แบบ กพ.ไทย และ British Councilรับรองมาตรฐาน และอยู่ ZONE 1 London

สมัครก่อนเดือนธันวา2552 รับข้อเสนอ เรียนภาษา 1-3 เทอมที่ ลอนดอน ประเทศอังกฤษฟรี และเตรียมเดินทางต้นปี2553

ติดต่อ A. Jane 053216222

olacm@yahoo.com

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

WHPC กับพยาบาลไทยในการเรียนต่อในสหรัฐอเมริกา





OIC Thailand ได้รับเป็นตัวแทนสำหรับพยาบาลปริญญาไทยที่จะไปเรียนต่อ การฝึกปฏิบัติงานด้านเฮลท์แคร์ในวิทยาลัยที่แคลิฟอร์เนียสหรัฐอเมริกา ที่เรียกชื่อว่า CALIFORNIA PREPPATORY COLLEGE เมือง Redlands ที่ห่างจากสนามบินLos Angeles International Airport LAX เพียง 20 นาที CPC เป็นวิทยาลัยที่รับนักเรียนนานาชาติเพื่อเลืกเรียนต่อในคณะต่างๆในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ในสายวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ตลอดจนหลักสูตรหลังสำเร็จปริญญาของพยาบาลจากต่างประเทศ การเรียนจะใช้เวลาประมาณ9 เดือน ที่เรียกว่า ACADEMIC YEAR Programme โดยทางสถาบันมีหลักสูตร ESL สำหรับภาษาอังกฤษ ถ้าพยาบาลจากประเทศไทยที่ยังไม่เคยสอบ NCLEX จะมีการติว และจัดสอบให้ และมีการฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาลในมลรํฐแคลิฟอร์เนีย และได้รับค่าจ้างตามความเป็นจริงอีก1 ปี คุณสมบัติเป็นพยาบาลปริญญา ที่ต้องการเพิ่มความสามารถในทางภาษาอังกฤษ และมีความประสงค์ที่จะมาใช้ประสบการณ์จริงในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อโอกาสที่ดีในอนาคตในการจ้างงานหรือไปทำงานใน International hospital ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อายุตั้งแต่23-32 ปี และมีความตั้งใจจริงเท่านั้น และมีค่าใช้จ่ายในการเรียน แต่จะเป็นวิธีที่ให้ความฝันของพยาบาลไทยกับการใช้ภาษาอังกฤษให้ได้ดีมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนสภาพแวดล้อม และใช้ความสามารถที่มีอยู่จริงกับชีวิตในประเทศอเมริกา


สนใจติดต่อ A. JANE 086-4313850 053-216222

olacm@yahoo.com

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การเตรียมตัวไปเรียนในต่างประเทศ ของเด็กนักเรียนไทย






Centara Duangtawan Chiangmai Aug.2009

ดิฉันได้รับคำถามจากนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ในจำนวนนั้นเป็นเด็กนักเรียนไทย ที่เรียนพิเศษอยู่กับ AUA. และ British Council คำถามมีว่าการเลือกเรียนต่อในประเทศไทย ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่เรียกว่าอินเตอร์หรือจะไปเรียนต่างประเทศเลยต่างก็ใช้ผลสอบ IELTS เป็นเกณฑ์ทั้งนั้น และจะทำอย่างไรที่เธอเหล่านั้นจะมีโอกาสเรียน IELTS ได้เพราะบางคนอายุ16เรียนอยู่ในระดับPre-intermediate เท่านั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ielts ก็เป็นแบบทดสอบที่วัดมาตรฐานของภาษาอังกฤษ ที่เธอเหล่านั้นรู้จัก และสิ่งแวดล้อมและสื่อต่างๆทำให้การมีวิสัยทัศน์ที่จะรู้ว่าโอกาสที่จะได้เรียนต่อในต่างประเทศ ที่ใช้คะแนนband scores ทั้งการ ฟังพูดอ่าน เขียนชิงทุนการศึกษาซึ่งมีตัวเลือกที่มหาวิทยาลัย ในต่างประเทศเสนอให้นักเรียนต่างชาติ ที่ดูจากผลการเรียนและคะเเนนสอบIELTS
ซึ่งถือว่าต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้

แต่จะทำอย่างไรเล่าเมื่อข้อมูลเรื่องการเรียนการสอบ คนตอบคำถามที่เป็นอาจารย์หรือพ่อแม่ผู้ปกครองก็ยังไม่สามารถตอบคำถามได้ ทั้งๆที่พ่อแม่ก็เริ่มมองมหาวิทยาลัยที่สอนภาษาอังกฤษเช่นธรรมศาสตร์อินเตอร์ไว้ให้ลูกเช่นกัน หลังจากที่หลายครอบครัวส่งลูกไปเรียนภาษาในต่างประเทศตอนปิดเทอมหรือ ไปเรียนม.ปลายในออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์

มาแล้ว และครอบครัวก็ยังไม่สามารถประเิมินค่าใช้จ่าย ออกมาได้ว่าการไปเรียนในต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษไปเลย

หรือเรียนมหาวิทยาลัยอินเตอร์ในประเทศที่มาตรฐาน อะไรจะคุ้มค่าหรือประหยัดกว่ากัน คำตอบก็คงจะมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับตัวเด็กๆเอง ซึ่งเป็นแบบฉบับของความรักของพ่อแม่ทั่วโลกที่ได้ทำวีรกรรมให้กับลูกซึ่งถือว่าเป็นปกติ

วิกฤติเศรษฐกิจ ผ่านมานับสิบปีทำให้บัณฑิตที่จบปริญญาตรีตกงานอย่างทั่วถึง โครงการ Work and Travel ที่จะเห็นได้ว่า ตลาดแรงงานในบ้านเราล้มเหลว ระบบการศึกษาติดขัด แต่โครงการเรียนและทำงานอย่างสั้นๆก็เป็นเพียง ปราสาททราย เป็นเพียงการเดินทางสั้นๆและไม่รู้ว่าจะได้อะไรเช่นที่กล่าวอ้างกันหรือไม่ เรื่อง Visa หรือPermitทำงาน นักศึกษาบางคนไปอเมริกามา2-3 รอบแล้ว มีประสบการณ์สวนสนุกก็ถือว่าเปิดมิติใหม่ที่จะทำงานเป็น

และก็มีผลต่อรุ่นน้องๆในชั้นมัธยม ถ้าเรียนไปไม่เก่งจริงโอกาส ตกงานมีแน่นอน และภาษาอังกฤษก็เป็นวิชาหนึ่งที่ต้องเอาจริง พ่อแม่ในเอเชียจะลงทุนที่สุดคือค่าเรียนของลูกทั้งเรียนพิเศษ เรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเีสียง เท่าที่จะจัดหาให้ได้

ส่วนลูกก็จะตอบแทนด้วยการตั้งใจเรียน และประพฤติปฏิบัิติตัวดีงาม และทำตนเป็นเด็กดี ตอบแทนโอกาสที่พ่อแม่ให้

การเตรียมตัวไปเรียนในต่างประเทศ ของเด็กนักเรียนไทย คำถามที่ดิฉันพบคือนักเรียนไทยเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล นานเหลือเกิน เมื่อมีโอกาสได้รับรู้เรื่องการเรียน เรื่อง แบบทดสอบ ที่สามารถแสดงมาตรฐานของทักษะในภาษาอังกฤษ ที่ไม่เพียงแต่มหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ ต้องการ ทุนการศึกษาจากทั่วโลก ก็เป็นแรงจูงใจอีก แต่ข้อมูลที่ได้มา นักเรียนจะต้องมีผล IELTS เช่นเดียวกับแพทย์พยาบาลที่จะเรียนต่อ หรือพี่ๆที่จบปริญญาตรีที่ต้องหาที่เรียนในต่างประเทศและไปสอบกันและใช้เวลาเป็นปี กว่าจะได้คะแนนที่กำหนด บางคนล้มเลิกความอดทนไปเลย



วิธีการของ Cambridge ที่เราสามารถใช้ Practice tests for IELTS ( The International English Language Testing System ) มีหนังสือที่เป็น SELF StudyEdition ถึง7 เล่ม และยังไม่รวมถึงหนังสือขยายความและวิธีการของทุกทักษะที่เป็น update edition อีกมากมาย ที่ใช้มาตรฐานร่วมกัน และไม่สามารถเรียนรู้ได้ระดับดีมากในเวลาสั้นๆ

การสอบมีข้อจำกัดด้วยเงื่อนเวลา , Tricks , และ Traps มากมาย ตลอดจนการฟังและการอ่านจะดีสำหรับผู้เตรียมตัวดีเท่านั้น ความรู้ทางวิชาการที่มาจากงานวิจัย ที่คนสอบต้องมีประสบการณ์ และนำมาตอบ Skills ,not a gift
โครงการเล็กๆที่ดิฉันจะเสนอในเวลานี้ เกิดจากคำถามของเด็กๆ ว่าอายุเท่าไรน่าจะเรียน IELTS ที่สุด เพราะมาตรฐานและ
เป็นวิธีการเตรียมการ สำหรับนักเรียนม.ปลาย ที่สนใจจะเตรียมผล ielts ไปใช้เรียนต่อปริญญาตรีใน
ต่างประเทศ
การสอบIELTS ผู้สอบต้องอายุครบ16 ปี

และข้อเสนอพิเศษตอนนี้ ถ้ามีนักเรียนที่เป็นกลุ่มเดียวกันพื้นฐานภาษาอังกฤษดีกลุ่มละ3-5 อายุ15 ปีขึ้นไป อยากเรียน Pre-ielts ในราคานักเรียน และมีเป้าหมายสอบวัดผลเมื่อมีโอกาสและความพร้อม

ยินดีให้คำปรึกษา สำหรับผู้ปกครองและผู้สนใจ

อย่าลืมนะคะ IELTS จะดีสำหรับผู้เตรียมตัวดีเท่านั้นค่ะ

A. Jane

olacm@yahoo.com


053216222

086-4313850

Oblivion Duo Guitar